1. การตรวจลงตราประเภทนี้จะออกให้แก่คนต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อการใดการหนึ่งดังต่อไปนี้
- เพื่อเดินทางผ่านราชอาณาจักร ( รหัส TS )
- เพื่อเล่นกีฬา ( รหัส S )
- เป็นผู้ควบคุมพาหนะหรือเป็นคนประจำพาหนะที่เข้ามายังท่า สถานี หรือท้องที่ในราชอาณาจักร
( รหัส C)
2. อายุวีซ่า 3 เดือน
3. ค่าธรรมเนียม 800 บาท ต่อครั้ง
4. ระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักร ครั้งละไม่เกิน 30 วัน
5. จำนวนเงินที่คนต่างด้าวต้องมีติดตัวขณะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรคือ ต้องมีเงินหรือเอกสารที่จะพึงจ่ายหรือแลกเปลี่ยนได้เป็นมูลค่าเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยคนละไม่น้อยกว่า 20,000 บาท ครอบครัวละไม่น้อยกว่า 40,000 บาท
6. เอกสารที่ใช้ยื่นประกอบในการขอรับการตรวจลงตรา
- หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง อายุใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- แบบฟอร์มวีซ่าที่กรอกข้อความสมบูรณ์
- รูปถ่ายขนาด 2 ? นิ้ว จำนวน 2 รูป ( ถ่ายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน /ไม่สวมหมวก และแว่นตาดำ)
- บัตรโดยสารเครื่องบิน ไป-กลับ หรือที่จะเดินทางไปยังประเทศที่สาม
- วีซ่าของประเทศที่สามในหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ( รหัส TS)
- หนังสือเชิญให้เข้าร่วมในการแข่งขันกีฬา ( รหัส S)
- หนังสือรับรองว่าเป็นผู้ควบคุมพาหนะหรือเป็นคนประจำพาหนะที่เข้ามายังท่า สถานี หรือท้องที่ในราชอาณาจักร ( รหัส C)
- ทั้งนี้ อาจขอให้แสดงเอกสารเพิ่มเติมหรือสัมภาษณ์ผู้ขอรับการตรวจลงตราด้วย
1. การตรวจลงตราประเภทนี้จะออกให้แก่คนต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อวัตถุประสงค์ในการท่องเที่ยว ( รหัส TR)
2. อายุวีซ่า 3 เดือน หรือ 6 เดือน
3. ค่าธรรมเนียม 1,000 บาท ต่อครั้ง
4. ระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักร ครั้งละไม่เกิน 30 หรือ 60 วัน
หากผู้ได้รับการตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยวมีสัญชาติของประเทศที่ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว หรือมีสัญชาติของประเทศที่มีความตกลงยกเว้นการตรวจลงตรากับไทย จะได้รับอนุญาตให้พำนักครั้งละไม่เกิน 60 วัน หากเป็นผู้ที่มีสัญชาติอื่นจะได้รับอนุญาตให้พำนักครั้งละไม่เกิน 30 วัน
5. จำนวนเงินที่คนต่างด้าวต้องมีติดตัวขณะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรคือต้องมีเงินหรือเอกสารที่จะพึงจ่ายหรือแลกเปลี่ยนได้เป็นมูลค่าเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยคนละไม่น้อยกว่า 20,000 บาท ครอบครัวละไม่น้อยกว่า 40,000 บาท
6. เอกสารที่ใช้ยื่นประกอบในการขอรับการตรวจลงตรา
- หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง อายุใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- แบบฟอร์มขอวีซ่าที่กรอกข้อความสมบูรณ์
- รูปถ่ายขนาด 2 ? นิ้ว จำนวน 2 รูป ( ถ่ายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน / ไม่สวมหมวกและแว่นตาดำ)
- หลักฐานที่แสดงว่าจะเดินทางออกจากประเทศไทยหลังจากสิ้นสุดการท่องเที่ยว เช่น บัตรโดยสารเครื่องบินไป-กลับ หรือที่จะเดินทางไปยังประเทศที่สาม
- เอกสารจากบริษัทท่องเที่ยว (กรณีที่เดินทางมากับบริษัททัวร์)
- ทั้งนี้ อาจขอให้แสดงเอกสารเพิ่มเติมหรือสัมภาษณ์ผู้ขอรับการตรวจลงตราด้วย
1. การตรวจลงตราประเภทนี้จะออกให้แก่คนต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
2. อายุวีซ่า
- 3 เดือน สำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักรได้ครั้งเดียว ( single entry)
- 1 ปี สำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักรได้หลายครั้ง ( multiple entries)
3. ค่าธรรมเนียม 2,000 บาท ( single entry) และ 5,000 บาท (multiple entries)
4. ระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักร ครั้งละไม่เกิน 90 วัน
5. จำนวนเงินที่คนต่างด้าวต้องมีติดตัวขณะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร คือ ต้องมีเงินหรือเอกสารที่จะพึงจ่ายหรือแลกเปลี่ยนได้เป็นมูลค่าเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยคนละไม่น้อยกว่า 20,000 บาท ครอบครัวละไม่น้อยกว่า 40,000 บาท
7. เอกสารที่ใช้ยื่นประกอบในการขอรับการตรวจลงตรา
เนื่องจากการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวครอบคลุมวัตถุประสงค์ของการเดินทางเข้าประเทศไทยหลายประการ เอกสารหลักฐานที่ใช้ยื่นประกอบในการขอรับการตรวจลงตราจึงแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ของการเดินทาง และสถานทูตสถานกงสุลอาจขอให้แสดงเอกสารเพิ่มเติมหรือสัมภาษณ์ผู้ขอรับการตรวจลงตราด้วย
เอกสารที่ต้องนำไปแสดง ได้แก่
- หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- แบบฟอร์มวีซ่าที่กรอกข้อความสมบูรณ์
- รูปถ่ายขนาด 2 ? นิ้ว จำนวน 2 รูป (ถ่ายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน /ไม่สวมหมวกและแว่นตาดำ)
เอกสารประกอบตามวัตถุประสงค์ของการเดินทาง เช่น
การเข้ามาในฐานะเป็นบุคคลในครัวเรือนหรือในความอุปการะ ( รหัส O)
- หลักฐานการเป็นบิดา มารดา บุตร / สูติบัตร / ใบสำคัญการสมรส
- หนังสือรับรองการทำงาน ใบอนุญาตทำงานที่ยังมีอายุใช้งาน ของผู้ที่ทำงานในประเทศไทย
- หลักฐานแสดงว่าคู่สมรสเป็นคนสัญชาติไทย หรือเป็นผู้ที่มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร หลักฐานแสดงฐานะทางการเงิน
- หนังสือจากสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ องค์การระหว่างประเทศ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ แล้วแต่กรณี
เข้ามาเพื่อรับการรักษาพยาบาล (รหัส O)
- หนังสือตอบรับจากสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานของรัฐในประเทศไทย
คู่ความหรือพยานในศาล (รหัส O)
- หนังสือหรือหมายจากศาลของไทย
การเข้ามาเพื่อใช้ชีวิตในฐานะผู้สูงอายุ ( รหัส O)
- ผู้ร้องต้องมีอายุตั้งแต่ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ระบุวัตถุประสงค์ว่าจะขอเข้ามาใช้ชีวิตในฐานะผู้สูงอายุหรือเกษียณ และจะไม่ทำงานในระหว่างพำนักในไทย
- หลักฐานแสดงฐานะทางการเงินหรือหลักฐานการได้รับเงินบำนาญ
( ต้องมีเงินฝากไม่น้อยกว่า 200,000 บาท หรือมีรายได้/บำนาญไม่น้อยกว่าเดือนละ 65,000 บาท)
( หมายเหตุ
1. เมื่อคนต่างด้าวเดินทางเข้าประเทศไทย เจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะพิจารณาอนุญาตให้พำนักอยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 90 วัน การขยายระยะเวลาพำนัก จะต้องติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
2. หากเป็นการขอขยายระยะเวลาพำนักระยะยาว คือ 1 ปี สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะพิจารณาโดยใช้หลักเกณฑ์การเข้าเมืองของคนต่างด้าวซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปีบริบูรณ์ ซึ่งประสงค์จะขอรับการตรวจลงตราเพื่อเข้ามาพำนักในราชอาณาจักรคราวละไม่เกิน 1 ปี รหัส O-A โดยใช้หลักเกณฑ์ว่าผู้ร้องต้องมีหลักทรัพย์เป็นเงินฝาก 800,000 บาท หรือมีรายได้/บำนาญเดือนละ 65,000 บาท หรือมีเงินฝากและรายได้รวมกันไม่น้อยกว่า 800,000 บาท)
นักเรียน / นักศึกษา ( รหัส ED)
- หนังสือตอบรับจากสถานศึกษา
- หนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (กรณีเป็นโรงเรียนเอกชน)
นักบวชที่จะเข้ามาศึกษาพระพุทธศาสนา (รหัส ED)
- หนังสืออนุญาตจากสำนักงานพระพุทธศานาแห่งชาติ
การปฏิบัติหน้าที่ราชการ ( รหัส F ) การปฏิบัติงานในรัฐวิสาหกิจ (รหัส B) การฝึกอบรม ดูงาน (รหัส ED)
- หนังสือจากสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ องค์การระหว่างประเทศ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานรัฐบาล ที่เกี่ยวข้อง
การทำงาน (รหัส B)
- หนังสือกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน แจ้งผลการพิจารณาอนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาทำงานในบริษัทฯ ที่ขอได้ ( ในการขอรับหนังสือกรมการจัดหางานดังกล่าว นายจ้างที่จะจ้างคนต่างด้าวต้องไปยื่นคำร้องขอรับใบอนุญาตทำงานหรือ แบบ ตท. 3 ณ กองงานคนต่างด้าว กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี แขวงดินแดง เขตดินแดง กท 10400 โทร. 245-2745 / 617-6578 / 617-6584 โทรสาร 617-6576 หรือที่สำนักงานแรงงานจังหวัด ซึ่งหากอนุญาตให้คนต่างด้าวดังกล่าวมาทำงานได้ตามที่ขอ กระทรวงแรงงานจะมีหนังสือแจ้งผลการอนุญาต ให้นายจ้างส่งหนังสือกรมการจัดหางานดังกล่าวให้คนต่างด้าวใช้เป็นเอกสารประกอบการขอวีซ่า)
- หนังสือจากบริษัทในประเทศไทยที่จะจ้างงานบุคคลต่างด้าวดังกล่าวชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการจ้างงาน พร้อมทั้งแนบเอกสารของบริษัท เช่น ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทฯ หรือห้างหุ้นส่วนจำกัดจากกระทรวงพาณิชย์ / บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น / ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ถ้ามี) / ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม / งบการเงินปีล่าสุด ฯลฯ
[ หมายเหตุ
1. เมื่อคนต่างด้าวได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant Visa “B”) จากสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่แล้ว เมื่อเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ให้ไปติดต่อกองงานคนต่างด้าว เพื่อยื่นคำร้องขอรับใบอนุญาตทำงาน ( Work Permit) และเมื่อได้รับใบอนุญาตทำงานแล้ว จึงจะสามารถทำงานได้
2. ในกรณีของคนต่างด้าวที่ประสงค์จะเข้ามาทำงานและพำนักอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลา 1 ปี นายจ้างจะต้องยื่นคำร้องต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมื่อได้รับพิจารณาอนุมัติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะแจ้งให้สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ทราบโดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขอให้ตรวจลงตรา Non-Immigrant Visa รหัส B-A ซึ่งพำนักได้ 1 ปี ให้แก่คนต่างด้าวนั้นต่อไป ]
การติดต่อธุรกิจ (รหัส B)
- หนังสือรับรองการทำงานของบริษัทที่ผู้ร้องทำงานอยู่ รวมทั้งระบุวัตถุประสงค์ของการเดินทางไปประเทศไทย ชื่อบริษัท ห้างร้าน หรือหน่วยงานที่จะไปติดต่อ
- หลักฐานแสดงฐานะทางการเงินหรือการทำธุรกิจของผู้ร้อง ( กรณีไม่ได้ทำงานกับริษัทหรือหน่วยงานใดๆ)
- หลักฐานแสดงสถานะทางการเงิน/โครงการที่จะเข้ามาประกอบในประเทศไทย ( กรณีประสงค์จะเข้ามาเป็นผู้ประกอบกิจการในประเทศไทย)
- หนังสือเชิญของบริษัทในประเทศไทยให้ผู้ร้องเดินทางไปประเทศไทยเพื่อติดต่อธุรกิจ ( โดยต้องแนบเอกสารของบริษัท เช่น ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทฯ หรือห้างหุ้นส่วนจำกัดจากกระทรวงพาณิชย์ / บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น / ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ถ้ามี) / ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม / งบการเงินปีล่าสุด ฯลฯ)
- กรณีผู้ร้องอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาของบริษัท ต้องมีสำเนาหนังสือแต่งตั้งบุคคลของบริษัทยื่นประกอบด้วย
( หมายเหตุ
1. สำเนาเอกสารของบริษัทฯ จะต้องให้กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัทหรือหุ้นส่วนผู้จัดการลงนามและประทับตรารับรอง โดยต้องแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงนามด้วย
2. กรณีหนังสือของบริษัท ควรได้รับการรับรองจากสำนักงานทะเบียนของกระทรวงพาณิชย์ อายุไม่เกิน 6 เดือน – 1 ปี เนื่องจากบริษัทหลายแห่งมิได้ดำเนินธุรกรรมใดๆ ในปัจจุบัน แต่นำเอกสารบริษัทเดิมไปใช้ในการรับรอง )
3. ตัวอย่างหนังสือเชิญของบริษัท
ครู / อาจารย์ในสถาบันการศึกษาเอกชน ( รหัส B)
- หนังสือตอบรับการจ้างจากสถาบันการศึกษา
- หนังสืออนุมัติให้จ้างบุคคลดังกล่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช) หรือจากสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ส่วนภูมิภาค)
- หลักฐานวุฒิการศึกษา
- หนังสือรับรองว่าไม่มีประวัติอาชญากรรม
การตรวจลงตราประเภททูต ( Diplomatic Visa)
1. การตรวจลงตราประเภทนี้จำกัดเฉพาะการขอรับการตรวจลงตราเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อปฏิบัติหน้าที่ทางการทูตหรือกงสุล หรือการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และผู้ร้องจะต้องถือหนังสือเดินทางทูตหรือหนังสือเดินทางสหประชาชาติ ( UN Laissez-Passer) ซึ่งเทียบเท่าหนังสือเดินทางทูตเท่านั้น
2. ผู้ร้องจะต้องแสดงหนังสือนำจากกระทรวงการต่างประเทศ หรือจากสถานเอกอัครราชทูตของประเทศผู้ขอ หรือจากหน่วยงานหรือองค์กรของสหประชาชาติที่ผู้ร้องสังกัดอยู่ โดยหนังสือรับรองจะต้องระบุชื่อ ตำแหน่ง และวัตถุประสงค์การเดินทางให้ชัดเจน
3. ยกเว้นค่าธรรมเนียม
4. ระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักร ครั้งละไม่เกิน 90 วัน
การตรวจลงตราประเภทราชการ ( Official Visa)
1. การตรวจลงตราประเภทนี้จำกัดเฉพาะการขอรับการตรวจลงตราเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ และผู้ร้องจะต้องถือหนังสือเดินทางราชการหรือหนังสือเดินทางสหประชาชาติ ( UN Laissez-Passer) ซึ่งเทียบเท่าหนังสือเดินทางราชการเท่านั้น
2. ผู้ร้องจะต้องแสดงหนังสือนำจากกระทรวงการต่างประเทศ หรือจากสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุล/หน่วยราชการ ของประเทศผู้ขอ หรือจากหน่วยงาน หรือองค์กรของสหประชาชาติที่ผู้ร้องสังกัดอยู่ หรือจากหน่วยราชการของไทย โดยหนังสือรับรองจะต้องระบุชื่อ ตำแหน่ง และวัตถุประสงค์การเดินทางให้ชัดเจน
3. ยกเว้นค่าธรรมเนียม
4. ระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักร ครั้งละไม่เกิน 90 วัน
การตรวจลงตราประเภทอัธยาศัยไมตรี ( Courtesy Visa)
1. การตรวจลงตราประเภทอัธยาศัยไมตรีจำกัดเฉพาะการขอรับการตรวจลงตราเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
- การขอรับการตรวจลงตราของผู้ถือหนังสือเดินทางทูตหรือหนังสือเดินทางราชการ หรือหนังสือเดินทางสหประชาชาติที่เทียบเท่าหนังสือเดินทางทูตหรือหนังสือเดินทางราชการ เพื่อการอื่นนอกจากการเข้ามาประจำการในราชอาณาจักร เพื่อปฏิบัติหน้าที่การทูต หรือกงสุล หรือราชการ
- การขอรับการตรวจลงตราของผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา ซึ่งประสงค์จะเข้ามาในราชอาณาจักรในฐานะเป็นพระราชอาคันตุกะ ราชอาคันตุกะ แขกของรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐ
2. เอกสารประกอบในการขอรับการตรวจลงตรา
- หนังสือเดินทาง
- แบบฟอร์มคำร้องขอรับการตรวจลงตราที่กรอกข้อความสมบูรณ์ พร้อมรูปถ่าย
- หนังสือนำจากสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุล/หน่วยราชการ ของประเทศผู้ร้อง หรือจากหน่วยงานหรือองค์กรของสหประชาชาติที่ผู้ร้องสังกัดอยู่ หรือจากหน่วยราชการของไทย โดยหนังสือรับรองจะต้องระบุชื่อ ตำแหน่ง และวัตถุประสงค์การเดินทางให้ชัดเจน
3. อายุวีซ่า 3 เดือน หรือ 6 เดือน สามารถเดินทางเข้าราชอาณาจักรได้หลายครั้ง ( multiple entries)
4. ระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักร ครั้งละไม่เกิน 30 วัน
5. ไม่เก็บค่าธรรมเนียม
6. การขยายระยะเวลาพำนัก เมื่อครบกำหนดตามที่ได้รับอนุญาตแล้ว โดยทั่วไปสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะไม่อนุญาตให้อยู่ต่อไป เว้นแต่มีเหตุจำเป็นหรือเหตุสุดวิสัยไม่สามารถเดินทางออกไปได้ โดยในการขอยื่นคำร้องขออยู่ต่อที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะต้องมีหนังสือรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศแจ้งขอเป็นรายๆ ไป เพื่อนำเรื่องเสนอผู้มีอำนาจพิจารณาสั่งการ และต้องเสียค่าธรรมเนียมการขอ
การตรวจลงตราสำหรับการเข้ามาเพื่อติดต่อธุรกิจ ใช้ได้หลายครั้งภายใน 3 ปี ( Three-Year Non-Immigrant Visa “B” )
คนต่างชาติที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อติดต่อธุรกิจ และจำเป็นต้องเดินทางเข้ามาบ่อยครั้ง สามารถขอรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว รหัส B ใช้เดินทางเข้าประเทศไทยได้หลายครั้ง อายุ 3 ปี (Three-Year Non-Immigrant Visa “B” )
คนต่างชาติที่ได้รับการตรวจลงตราประเภทดังกล่าวสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้หลายครั้ง ภายใน 3 ปี และพำนักได้ครั้งละไม่เกิน 90 วัน ทั้งนี้ ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย
1. สถานที่ยื่นคำร้องขอรับการตรวจลงตรา
คนต่างชาติที่ประสงค์จะขอรับการตรวจลงตราประเภท Three-Year Non-Immigrant Visa รหัส “B” สามารถยื่นคำร้องขอรับการตรวจลงตราได้ที่สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยซึ่งตั้งอยู่ในประเทศที่ผู้ขอรับการตรวจลงตรามีถิ่นพำนักเท่านั้น หรือหากไม่มีสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ไทยตั้งอยู่ในประเทศที่ผู้ขอรับการตรวจลงตรามีถิ่นพำนัก ให้ยื่นคำร้องได้ที่สถานเอกอัครราชทูตไทยที่ดูแลประเทศดังกล่าว ทั้งนี้ ไม่สามารถยื่นคำร้องขอรับการตรวจลงตราที่สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ของไทย ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้ตรวจลงตราประเภทดังกล่าว
หากประสงค์จะสอบถามเกี่ยวกับสถานที่ยื่นคำร้องฯ หรือรายละเอียดเกี่ยวกับการขอรับการตรวจลงตราประเภท Three-Year Non-Immigrant Visa “B” สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สถานเอกอัครราชทูตสถานกงสุลใหญ่ของไทย สำหรับที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ดูได้จาก www.mfa.go.th/web/10.php
2. เอกสารประกอบการยื่นคำร้องฯ
- แบบฟอร์มคำร้องขอรับการตรวจลงตราซึ่งกรอกข้อความครบถ้วนสมบูรณ์
- หนังสือเดินทางซึ่งมีอายุการใช้เดินทางที่เพียงพอ
- รูปถ่ายซึ่งถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
- เอกสารประจำตัว เช่น บัตรประชาชน เอกสารแสดงการมีถิ่นพำนัก
- หลักฐานเกี่ยวกับการทำงานของผู้ขอรับการตรวจลงตรา เช่น ใบรับรองการทำงานจากสถานที่ทำงาน หรือในกรณีที่มีธุรกิจของตนเอง ให้แสดงหลักฐานเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของตน
- หนังสือรับรองการเป็นสมาชิกหอการค้า สมาคมทางธุรกิจ หรือสถาบันอื่นที่เทียบเท่าของประเทศนั้น ๆ
- หลักฐานแสดงว่ามีการติดต่อธุรกิจในประเทศไทยเป็นประจำ เช่น อาจแสดงหนังสือรับรองหรือหลักฐานการติดต่อธุรกิจกับบริษัทหรือหน่วยงานในประเทศไทย พร้อมทั้งแสดงเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับบริษัทดังกล่าว (เช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น รายละเอียดการดำเนินกิจการของบริษัท รายการภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีการค้า ภ.ง.ด. 50 ภ.ง.ด. 30 ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ภ.พ. 20 งบดุลและบัญชีกำไรขาดทุนของบริษัท แผนที่ที่ตั้งบริษัท เป็นต้น )
ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในแต่ละประเทศอาจขอรับเอกสารประกอบอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณา
3. ค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา 10,000 บาท
หมายเหตุ - การพิจารณาตรวจลงตราขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่
- ค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราที่จ่ายให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่แล้วไม่สามารถขอรับคืนได้
* คนต่างด้าวที่ประสงค์จะขยายระยะเวลาพำนักในประเทศไทยหรือเปลี่ยนแปลงประเภทวีซ่า ต้องยื่นคำร้อง ณ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ 10120 โทร. 0-2287-3101-10 เว็บไซต์ http://www.immigration.go.th/ การพิจารณาอนุมัติขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง
** ข้อมูลจาก กระทรวงต่างประเทศ http://www.consular.go.th/
Tel. +66 (0) 2212-9100 Mobile +66 (0) 81 567-0800 (Khun Issara)
Email : issa_th@yahoo.com
Address : 1120/12 CHAN ROAD (SOI WAT PAI-NGERN), BANGKLO, BANGKORLAEM BANGKOK 10120 THAILAND